บางครั้งการเริ่มต้นใหม่…อาจไม่จำกัดอายุ The Intern (2015) คือภาพยนตร์คอมเมดี้อบอุ่นหัวใจ ที่จับคู่ต่างวัยระหว่างชายวัยเกษียณกับสาวผู้บริหารรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว ทั้งขำ ทั้งซึ้ง และเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ.
ข้อมูลเบื้องต้น
- ชื่อไทย: ดิ อินเทิร์น โก๋เก๋ากับบอสเก๋ไก๋
- ชื่ออังกฤษ: The Intern
- ผู้กำกับและเขียนบท: Nancy Meyers
- นำแสดงโดย: Robert De Niro, Anne Hathaway, Rene Russo, Anders Holm
- แนวภาพยนตร์: คอมเมดี้ / ดราม่า / แรงบันดาลใจ
- ปีที่ฉาย: 2015
- ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
- คะแนน IMDb: 7.1 / 10 (ดูที่ IMDb)
- ระยะเวลา: 2 ชั่วโมง 1 นาที
เรื่องย่อ (ไม่สปอยล์หนัก)
เบน วิเทคเกอร์ (Robert De Niro) ชายวัย 70 ปี ที่เคยเป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่ตัดสินใจสมัครเป็น “อินเทิร์น” ที่บริษัทแฟชั่นออนไลน์สุดล้ำ
เขาถูกจับคู่ให้ทำงานกับ จูลส์ ออสติน (Anne Hathaway) ผู้บริหารสาวรุ่นใหม่ที่กำลังต่อสู้กับความเครียดในการบริหารงานและชีวิตครอบครัว
จากความต่างวัย กลายเป็นความเข้าใจที่ค่อย ๆ ก่อเกิด — เบนไม่ได้เป็นแค่ลูกน้อง แต่เป็น “ที่ปรึกษาชีวิต” ที่เธอไม่รู้ว่าตัวเองต้องการ.
สปอยล์เนื้อเรื่องแบบละเอียด
เบนเริ่มต้นในฐานะ “อินเทิร์นผู้สูงวัย” ท่ามกลางทีมงานรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ เขาปรับตัวอย่างเงียบ ๆ ด้วยรอยยิ้มและน้ำใจ
จนได้รับความไว้วางใจจากจูลส์ แม้แรก ๆ เธอจะรู้สึกว่าไม่ต้องการผู้ช่วย แต่เมื่อได้รู้จักเบนมากขึ้น เธอกลับเห็นว่าเขามีมุมมองชีวิตที่เธอขาดหาย.
ระหว่างที่บริษัทกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นักลงทุนแนะนำให้จูลส์จ้าง CEO มืออาชีพมาบริหารแทนเธอ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว
ขณะเดียวกัน ชีวิตแต่งงานของเธอก็เริ่มสั่นคลอน — สามีแอบนอกใจ ทำให้จูลส์เริ่มตั้งคำถามกับทุกอย่างในชีวิต
แต่เบนคอยอยู่ข้าง ๆ ให้คำแนะนำอย่างเข้าใจ ไม่ตัดสิน พร้อมเตือนว่า “บางครั้งการทำสิ่งที่ถูกต้อง อาจไม่ใช่สิ่งที่ง่ายที่สุด.”
ตอนจบ จูลส์ตัดสินใจ “ไม่จ้าง CEO” และเลือกจะอยู่ในจังหวะของตัวเองต่อไป เบนยังคงเป็นอินเทิร์นที่บริษัท แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนแท้ต่างวัย
หนังปิดด้วยฉากที่เบนออกไปทำโยคะกลางสวน สื่อถึงการใช้ชีวิตอย่างสงบและมีความหมายในทุกวัย.
บทวิจารณ์
จุดแข็ง:
- เคมีระหว่าง Robert De Niro และ Anne Hathaway เข้ากันอย่างน่าทึ่ง — อบอุ่นแต่ไม่เลี่ยน
- บทหนังของ Nancy Meyers สะท้อนปัญหาชีวิตคนทำงานยุคใหม่ได้ดี ทั้งเรื่องเวลา ความสมดุล และการยอมรับตัวเอง
- อารมณ์ขันเบา ๆ สลับกับฉากซึ้ง ๆ ทำให้หนังดูเพลินและมีพลังบวกตลอดเรื่อง
- ดนตรีและภาพสไตล์มินิมอลให้ความรู้สึกสบาย เหมาะกับการดูในวันว่าง
จุดอ่อน:
- บางช่วงของเรื่องดำเนินช้า โดยเฉพาะช่วงกลางที่เน้นความสัมพันธ์ในที่ทำงานมากเกินไป
- หนังไม่ได้มี “ปมขัดแย้ง” ใหญ่แบบดราม่าหนัก ทำให้บางคนอาจรู้สึกเบาเกินไป
โดยรวม The Intern (2015) คือหนังฟีลกู้ดที่ทั้ง “โอบกอดหัวใจ” และ “ให้แง่คิดชีวิต”
มันพูดถึงความหมายของการทำงาน มิตรภาพ และการใช้ชีวิตในทุกช่วงวัยได้อย่างเรียบง่ายแต่ทรงพลัง
เหมาะกับทุกคนที่กำลังเหนื่อยจากชีวิตและต้องการแรงบันดาลใจเล็ก ๆ เพื่อเริ่มต้นใหม่.
ตัวอย่างภาพยนตร์จาก YouTube
ที่มา: YouTube – The Intern (2015) Official Trailer
สรุป
The Intern คือหนังที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมายของ “ความเป็นมนุษย์”
มันบอกเราว่าทุกคนไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ยังมีคุณค่าเสมอ — และในโลกที่เปลี่ยนเร็ว ความอบอุ่นและการฟังกันอาจคือคำตอบที่เราลืมหา.
